วันศุกร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2555

มันมาจากนรก

'คมศร' เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากเมืองกำแพงฯ สมัยเด็กผมอยู่ อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร เมืองแห่งกล้วยไข่และกระยาสารทอันขึ้นชื่อลือชาที่สุดของเมืองไทยนั่นแหละครับ ครั้งนั้นบ้านเมืองยังไม่เจริญเหมือนทุกวันนี้ ชาวบ้านยึดอาชีพทำไร่ทำนา ทำสวนและหาของป่าขาย พวกผู้หญิงที่เสร็จจากงานบ้านก็ทำสวนผัก ทอผ้าที่ใต้ถุน บ้างก็มีฝีมือทางจักสาน ทำกระจาด กระบุง ตะกร้าสวยๆ เอาไว้ใช้เองบ้าง ขายบ้าง พูดกันโดยรวมแล้ว ถือว่าชาวบ้านอยู่ในฐานะพออยู่พอกิน ไม่มีอะไรเดือดร้อน วัฒนธรรมของพวกเราคล้ายคลึงกับคนไทยภาคกลางส่วนใหญ่ มีทั้งมอญ ลาว พวน และจีน ผสมกลมกลืนแทบแยกไม่ออก นับถือผีบรรพบุรุษ เชื่อว่าวิญญาณของผู้ตายจะคอยคุ้มครองลูกหลานตลอดไป เรื่องผีที่น่ากลัวมากคือผีของคนที่ออกลูกตาย หรือเรียกว่าตายทั้งกลมนั่นเอง! บางปีมีคนออกลูกตายถึง 2-3 ราย เพราะการแพทย์ยังไม่เจริญ ส่วนมากจะอาศัยฝีมือหมอตำแยชื่อป้าอบ คนท้องแก่ก็มักจะเจ็บท้องใกล้คลอดลูกตอนกลางคืนเสียด้วย เดือดร้อนป้าอบต้องถูกปลุกกลางดึก คว้าตะกร้าเครื่องใช้ไม้สอยราวกับล่วมยาของแพทย์ กระวีกระวาดไปทำหน้าที่นางผดุงครรภ์ หรือสูตินารีแพทย์โดยด่วน ปีหนึ่ง มีข่าวลือว่าพญามัจจุราชจะมาเอาชีวิตเด็กๆ ไปเมืองผีถึง 7 คน! บ้างก็ว่าครบรอบปีอาถรรพณ์ บ้างก็เชื่อว่ามีวิญญาณบาปหลบหนีจากนรกมาเกิดในเมืองมนุษย์ เทพเจ้าแห่งความตายกริ้วโกรธมาก จึงติดตามมากระชากวิญญาณกลับแดนอเวจีตามเดิม ในเวลาไล่ๆ กัน มีคนตั้งท้องถึง 2 ราย คือน้าสวยกับน้าวิไล! บ้านไหนมีการตั้งท้อง ใกล้จะคลอดลูก บ้านนั้นก็จะตระเตรียมข้าวของที่จำเป็นเอาไว้อย่างพรักพร้อม คือพ่อบ้านจะตัดไม้สะแกมาตากแดด แล้วซ้อนกันเป็นกองๆ สำหรับใช้ในการอยู่ไฟ นอกจากนั้นยังตัดกิ่งพุทราหรือไผ่มาสะไว้ตามรั้วบ้าน เพื่อป้องกันภูตผี เช่น ปอบหรือกระสือ มากินเด็กอ่อนเพราะกลิ่นคาวเลือดดึงดูดใจ น้าสวยถึงเวลาคลอดลูกก็เกิดเรื่องน่าสยองขวัญขึ้นโดยไม่มีใครนึกฝัน! นั่นคือ แกเจ็บท้องร้องโอดโอยตั้งแต่กลางดึกจนถึงรุ่งเช้า ป้าอบและเพื่อนบ้านช่วยกันข่มท้องแต่ก็ไร้ผล เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดของน้าสวยดังบาดลึกเข้าไปถึงหัวใจของแทบทุกคนจริงๆ ครับ ชาวบ้านมาดูกันหนาตา ประสงค์จะช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้ มีเสียงซุบซิบกันว่าจะโดนอาถรรพณ์หรือเปล่า? บางคนบอกได้ยินเสียงนกแสกบินผ่านหลังคา ร้องแซ้กๆ น่าขนหัวลุกไปด้วย แต่บางคนก็บอกว่าเป็นธรรมดาของท้องแรกที่มักจะคลอดยาก ทั้งป้าอบและผู้ช่วยเหงื่อตกไปตามๆ กัน สั่งให้น้าสวยเบ่งเต็มที่ แต่สิ่งที่โผล่ออกมาจากท้องทำให้ทุกคนใจหายวาบเพราะเป็นเท้าเล็กๆ ข้างหนึ่งบ้าง สองข้างบ้าง บางครั้งก็โผล่มือออกมาโบกไหวๆ ราวกับจะล้อหลอกอย่างน่าสยองขวัญ เสียงน้าสวยร้องกรี๊ดดดด...เป็นครั้งสุดท้าย ทารกเจ้ากรรมหลุดออกจากท้องมาได้ก็สิ้นลมปราณทั้งแม่และลูก ฝังศพน้าสวยเสร็จก็ถึงคราวหน้าวิไล! บรรยากาศในหมู่บ้านเต็มไปด้วยความเยือกเย็น น่าวังเวงใจ หมูหมาโก่งคอหอนระงมราวกับพวกมันมองเห็นอะไรบางอย่างที่น่าเกลียดน่ากลัวอย่างเหลือประมาณ ถึงแม้ท้องน้าวิไลจะเป็นท้องที่สอง แต่กลับทำให้ทุกคนถึงกับอ้ำอึ้งตะลึงตะไลไปตามๆ กัน เมื่อป้าอบแจ้งข่าวร้ายว่า...เด็กตายในท้องแม่เสียแล้ว! แถมยังน่าขนลุกขึ้นไปอีกเมื่อท้องน้าวิไลโป่งขึ้นยุบลง ราวกับเด็กที่ตายแล้วจะพลิกตัวไปมาอยู่ในท้องกระนั้น! เสียงน้าวิไลร้องครางว่าช่วยด้วยๆ ป้าอบหน้าดำคร่ำเครียด บอกเสียงเหี้ยมๆ ว่าศพเด็กมันแรงเหลือเกิน ต้องใช้อาคมช่วยให้ออกจากร่างเร็วๆ ไม่งั้นแม่เด็กจะมีอันตราย ป้าอบทำพิธีด้วยการเอาด้ายมาจับเป็นมงคล 7 เส้น แล้วเสกคาถาพึมพำก่อนจะม้วนให้น้าวิไลกินกับน้ำมนต์ซึ่งเสกคาถาเช่นกัน เพื่อให้มงคลคลายในท้องแม่ แล้วสวมคอลูกที่ตายในท้อง ป้าอบร่ายคาถาเร็วปรื๋อแล้วเป่าลงที่กระหม่อมน้าวิไล ไปยืนอยู่ใกล้ๆ ศีรษะแล้วกระทืบเท้าอย่างแรงสามครั้ง น้าวิไลร้องกรี๊ดสุดเสียง...ทารกที่ตายก็หลุดผลัวะออกมา! ซากเละๆ ของศพเด็กเน่าเหม็นสุดขีดจนผู้คน แตกกระเจิง ฝูงหมาเห่าขรม ยอดไม้ไหวซ่าเหมือนเสียงใครหัวเราะครืนใหญ่ด้วยความสาสมใจอย่างเหลือประมาณ!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น